งานนี้ทำเอาตกใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ประเทศไนจีเรีย ประเทศในถิ่นทุรกันดารแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อชาวบ้านได้ยินเสียงเพลงลึกลับดังออกมาจากกำแพงในตอนแรกนั้นไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปใกล้กับกำแพงอันนี้ ด้วยความคิดที่ว่ามันคือคำสาปจากหมอผีทำให้ชาวบ้านในบริเวณนั้นต่างตกใจกลัวและร่ำลือกันไปต่างๆนานา แต่เมื่อเวลาผ่านไปสามวันเสียงเพลงลึกลับที่ดังออกมาจากในกำแพงก็ไม่ยอมหายไป ทำให้มีคนใจกล้ายอมเสียสละตัวเองเพื่อทำการพิสูจน์แต่สิ่งที่พวกเค้าพบกลับทำให้พวกเค้าต้องงุนงงซะยิ่งกว่าเดิม เมื่อสิ่งที่พวกเค้าเจอมันคือร่างของ “เด็กที่ยังมีชีวิต”



การณ์แปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ชาวบ้านได้สำรวจและพบว่า ตรงจุดที่มีเสียงเพลงลอดออกมานั้นมีมนุษย์อยู่ด้านใน หลังจากทุบกำแพงจนพังทลายก็พบว่า ร่างที่อยู่ด้านในเป็นเด็กชายอายุ 12 ปี ร่างกายซูบผอมหนังติดกระดูกโดยเด็กชายถูกขังไว้ในกำแพงอิฐที่ก่อขึ้นเป็นบล็อกโดยทำเป็นช่องที่มีขนาดความกว้างเพียงแค่ประมาณ 40 เซนติเมตร และสูงแค่พอนั่งได้เท่านั้น แต่ที่น่าตกใจที่สุดก็คือ กำแพงก่อโดยมีลักษณะปิดตายไม่มีแม้แต่ช่องให้แสงลอดเข้าไป ซึ่งคนที่จับเด็กคนนี้เข้าไปขังคงมีจุดประสงค์เดียวคือ “ปล่อยให้แห้งตายคากำแพงเท่านั้น”
 หลังจากที่ช่วยเด็กออกมาได้ เด็กชายคนนี้ก็ได้นิ่งเงียบไม่ยอมปริปากว่าเข้ามาอยู่ในกำแพงนี้ได้อย่างไร แต่ก็มีผู้สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อของชาวไนจีเรียที่มักจะปฏิบัติต่อเด็กที่พวกเค้า “เข้าใจ” ว่าคือตัวแทนแห่งซานตานและความโชคร้ายซึ่งจะนำเอาความอัปมงคล ความหายนะมาให้กับผู้ที่ไปยุ่งเกี่ยว ส่วนใหญ่พวกผู้ใหญ่มักจะไม่ฆ่าให้ตายด้วยมือของตัวเองเพราะความเชื่อที่ว่าถ้าฆ่าไป คำสาปก็จะหวนเข้ามาสู่ผู้ที่ลงมือ วิธีการปล่อยให้ตายไปเองคือวิธีการที่ดีที่สุด



ทีมา:siamnews.com